เมล็ดพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

📢ทุกวันนี้ คนเราเริ่มหันมากินผักและผลไม้กันมากขึ้น

เพราะเรารู้แล้วว่าผักผลไม้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากแค่ไหน

แต่เราก็อาจจะลืมไปว่า ผลผลิตเล็กๆ จากพืช อย่างเมล็ดพืช

ก็มีประโยชน์ไม่แพ้ผักผลไม้เช่นกัน วันนี้แอดเลยอยากชวน

คุณมาทำความรู้จักกับ 2 สุดยอดเมล็ดพืช

ที่อุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด บอกเลยว่านี่แหละ “จิ๋วแต่แจ๋ว” ของจริง

🍇เมล็ดองุ่น (Grape Seed)

👉หลายๆ คนน่าจะชอบกินองุ่นไร้เม็ด และหากต้องกินองุ่นที่มีเมล็ดก็มักจะคายเมล็ดองุ่นทิ้ง

เพราะมีรสชาติทั้งขมทั้งฝาด กินแล้วไม่อร่อย แต่คุณรู้ไหมว่าความจริงแล้ว

เมล็ดองุ่น อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินอี กรดไขมันไลโนเลอิก (Linoleic acid)

และฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา

และต้านการอักเสบชั้นเลิศ กินแล้วช่วยป้องกันและซ่อมแซมหลอดเลือดที่ถูกทำลาย

เสริมสร้างกายทำงานของระบบไหลเวียน ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ

🎉นอกจากนี้ ผลการวิจัยชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ในวารสาร

Applied and Environmental Microbiology

ของประเทศสหรัฐอเมริกา ยังเผยว่า สุดยอดเมล็ดพืชอย่างเมล็ดองุ่น

อาจช่วยลดความสามารถในการก่อให้เกิดการติดเชื้อของโนโรไวรัส (Norovirus) ได้ด้วย

🎃เมล็ดฟักทอง (Pumpkin seed)

👉เมล็ดฟักทองไม่ใช่แค่เคี้ยวเพลิน แต่ยังอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส

ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และกรดไขมันโอเมก้า 6 ทั้งยังมีไฟเบอร์

โปรตีน แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี วิตามินบี กรดโฟลิก

รวมถึงเซโรโทนิน ในรูปแบบแอล-ทริปโตเฟน (L-Tryptophan) ด้วย

🎈การบริโภคเมล็ดฟักทองจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อ

ช่วยพัฒนาสุขภาพหัวใจ อีกทั้งผลจากการศึกษาเชิงสังเกตการณ์ชิ้นหนึ่ง

ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 8,000 คน ยังพบว่า ผู้ที่บริโภคเมล็ดฟักทองและเมล็ดทานตะวันเป็นประจำ

มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมลดลงอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ 🌡️งานศึกษาวิจัยในเด็กยังพบว่า

เมล็ดฟักทองช่วยลดปริมาณแคลเซียมในปัสสาวะ

จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ด้วย

⚡นอกจากนี้ เมล็ดพืชส่วนใหญ่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นอาหารไฟเบอร์สูง

หากกินมากไปอาจทำให้ระบบย่อยอาหารมีปัญหา

เช่น ท้องอืด ท้องผูกได้ ฉะนั้น คุณจึงควรกินแต่พอดี

และดื่มน้ำให้มากๆ ด้วย เพื่อช่วยป้องกันอาการดังกล่าว