เมล็ดพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ทุกวันนี้ คนเราเริ่มหันมากินผักและผลไม้กันมากขึ้น
เพราะเรารู้แล้วว่าผักผลไม้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากแค่ไหน
แต่เราก็อาจจะลืมไปว่า ผลผลิตเล็กๆ จากพืช อย่างเมล็ดพืช
ก็มีประโยชน์ไม่แพ้ผักผลไม้เช่นกัน วันนี้แอดเลยอยากชวน
คุณมาทำความรู้จักกับ 2 สุดยอดเมล็ดพืช
ที่อุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด บอกเลยว่านี่แหละ “จิ๋วแต่แจ๋ว” ของจริง
เมล็ดองุ่น (Grape Seed)
หลายๆ คนน่าจะชอบกินองุ่นไร้เม็ด และหากต้องกินองุ่นที่มีเมล็ดก็มักจะคายเมล็ดองุ่นทิ้ง
เพราะมีรสชาติทั้งขมทั้งฝาด กินแล้วไม่อร่อย แต่คุณรู้ไหมว่าความจริงแล้ว
เมล็ดองุ่น อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินอี กรดไขมันไลโนเลอิก (Linoleic acid)
และฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา
และต้านการอักเสบชั้นเลิศ กินแล้วช่วยป้องกันและซ่อมแซมหลอดเลือดที่ถูกทำลาย
เสริมสร้างกายทำงานของระบบไหลเวียน ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ
นอกจากนี้ ผลการวิจัยชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ในวารสาร
Applied and Environmental Microbiology
ของประเทศสหรัฐอเมริกา ยังเผยว่า สุดยอดเมล็ดพืชอย่างเมล็ดองุ่น
อาจช่วยลดความสามารถในการก่อให้เกิดการติดเชื้อของโนโรไวรัส (Norovirus) ได้ด้วย
เมล็ดฟักทอง (Pumpkin seed)
เมล็ดฟักทองไม่ใช่แค่เคี้ยวเพลิน แต่ยังอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และกรดไขมันโอเมก้า 6 ทั้งยังมีไฟเบอร์
โปรตีน แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี วิตามินบี กรดโฟลิก
รวมถึงเซโรโทนิน ในรูปแบบแอล-ทริปโตเฟน (L-Tryptophan) ด้วย
การบริโภคเมล็ดฟักทองจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อ
ช่วยพัฒนาสุขภาพหัวใจ อีกทั้งผลจากการศึกษาเชิงสังเกตการณ์ชิ้นหนึ่ง
ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 8,000 คน ยังพบว่า ผู้ที่บริโภคเมล็ดฟักทองและเมล็ดทานตะวันเป็นประจำ
มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ งานศึกษาวิจัยในเด็กยังพบว่า
เมล็ดฟักทองช่วยลดปริมาณแคลเซียมในปัสสาวะ
จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ด้วย
นอกจากนี้ เมล็ดพืชส่วนใหญ่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นอาหารไฟเบอร์สูง
หากกินมากไปอาจทำให้ระบบย่อยอาหารมีปัญหา
เช่น ท้องอืด ท้องผูกได้ ฉะนั้น คุณจึงควรกินแต่พอดี
และดื่มน้ำให้มากๆ ด้วย เพื่อช่วยป้องกันอาการดังกล่าว